
การดื่มกาแฟเป็นกิจวัตรของใครหลายๆ คน เพราะคาเฟอีนช่วยเพิ่มความตื่นตัวและลดอาการง่วง แต่บางคนกลับพบว่าเมื่อดื่มกาแฟมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือเพียงแค่ความเชื่อเท่านั้น บทความนี้ขอพาคุณมาหาคำตอบว่า การดื่มกาแฟที่มากเกินไปเกินกว่าที่ร่างกายควรได้รับทำให้คุณปวดศีรษะจริงหรือไม่ มาดูกันเลยค่ะ
คาเฟอีนกับอาการปวดศีรษะ
คาเฟอีนมีผลต่อหลอดเลือดในสมองและระบบประสาท ดังนั้น การดื่มกาแฟอาจมีผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบ เช่น ลดอาการปวดศีรษะ
คาเฟอีนมีฤทธิ์ช่วยหดหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะในบางกรณี เช่น ไมเกรน
คาเฟอีนเป็นส่วนผสมในยาแก้ปวดศีรษะบางชนิด เช่น ยาพาราเซตามอลและแอสไพริน
กระตุ้นอาการปวดศีรษะ
ดื่มมากเกินไป: การได้รับคาเฟอีนในปริมาณสูงอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ
ถอนคาเฟอีน: หากร่างกายเคยชินกับคาเฟอีนแล้วหยุดดื่มกะทันหัน อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากการขาดคาเฟอีน
ขาดน้ำ: กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ หากดื่มมากแต่ดื่มน้ำน้อย อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและปวดศีรษะ
ควรดื่มกาแฟเท่าไหร่ถึงจะพอดี?
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ กาแฟ 3-4 แก้ว (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
วิธีรักษาอาการปวดศีรษะจากการดื่มกาแฟมากเกินไป
หากคุณรู้สึกปวดศีรษะหลังจากดื่มกาแฟมากเกินไป อาการอาจเกิดจากคาเฟอีนที่กระตุ้นระบบประสาทมากเกินไป หรือจากภาวะขาดน้ำที่มาพร้อมกับฤทธิ์ขับปัสสาวะของกาแฟ ลองใช้วิธีเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการ
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- คาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะ
- ควรดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้วทันที และพยายามดื่มน้ำตลอดวัน
พักผ่อนในที่เงียบและมืด
- หากปวดศีรษะรุนแรง ควรนอนพักในที่มืดและเงียบสงบ
- หลีกเลี่ยงเสียงดังและแสงจ้าเพื่อลดการกระตุ้นระบบประสาท
หลีกเลี่ยงคาเฟอีนเพิ่ม
- หยุดดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนชั่วคราว
- เปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มไร้คาเฟอีน เช่น ชาสมุนไพร น้ำผลไม้ หรือดื่มน้ำเปล่า
กินอาหารที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย
- อาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม เช่น กล้วย อะโวคาโด และถั่ว สามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะได้
- อาหารที่มีโปรตีนและไขมันดี เช่น อัลมอนด์ หรือโยเกิร์ต อาจช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
ใช้ความเย็นประคบศีรษะ
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือแผ่นเจลเย็นประคบที่หน้าผากหรือท้ายทอยประมาณ 10-15 นาที
- วิธีนี้ช่วยลดการอักเสบของเส้นเลือดและลดอาการปวด
ยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายร่างกาย
- การยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่ และหลัง อาจช่วยลดอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความตึงเครียด
- ฝึกหายใจลึก ๆ หรือทำสมาธิเพื่อช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย
หากจำเป็น อาจใช้ยาแก้ปวด
- หากอาการปวดศีรษะรุนแรง สามารถใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ไอบูโพรเฟน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากการใช้ยาเกินขนาดได้
ดื่มกาแฟมากไปแล้วปวดศีรษะเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แค่ความเชื่อ เนื่องจากคาเฟอีนมีผลกระทบต่อระบบประสาทและหลอดเลือด การดื่มในปริมาณพอเหมาะอาจช่วยลดอาการปวดศีรษะ แต่หากดื่มมากเกินไปหรือหยุดดื่มกะทันหันก็อาจกระตุ้นอาการปวดศีรษะได้ ถ้าคุณปวดศีรษะบ่อยจากการดื่มกาแฟ ลองปรับลดปริมาณ หรือดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยลดผลกระทบจากคาเฟอีนค่ะ หากผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจอยากเข้ารับการรักษาอาการปวดศีรษะ หรืออยากรับคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านรักษาอาการปวดศีรษะ ที่ดูแลคุณอย่างใส่ใจโดยแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและสมอง ติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอเพราะเราอยากให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอค่ะ