Radiesse vs Sculptra เหมาะกับผิวประเภทใด

Image
1
/

Radiesse vs Sculptra หัตถการงานผิวในรูปแบบงานฉีดเป็นสารเติมเต็มผิวที่ใช้ในการเสริมสร้างโครงสร้างของผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทั้งสองมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้เหมาะกับผิวประเภทต่างๆ ดังนี้

Radiesse
•    ส่วนประกอบหลัก: แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite)
•    ลักษณะการทำงาน: Radiesse เป็นสารเติมเต็มที่ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีด โดยมีคุณสมบัติในการยกกระชับและสร้างโครงสร้างให้กับผิว สามารถเติมเต็มริ้วรอยและเสริมสร้างความหนาของผิวได้ดี
•    เหมาะสำหรับ: ผิวที่มีการสูญเสียความยืดหยุ่น ผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย และริ้วรอยที่ต้องการการเติมเต็มอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลทันทีหลังการรักษา
•    ผลลัพธ์: ผลลัพธ์จาก Radiesse จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน และจะค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติ

Sculptra
•    ส่วนประกอบหลัก: กรดโพลีแอลแลกติก (Poly-L-Lactic Acid)
•    ลักษณะการทำงาน: Sculptra เป็นสารเติมเต็มที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ผลลัพธ์จาก Sculptra จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นหลังจากการฉีดหลายครั้ง (ปกติ 3 ครั้งหรือมากกว่า) โดยจะสร้างความหนาแน่นและความยืดหยุ่นของผิวได้ดี
•    เหมาะสำหรับ: ผิวที่มีการสูญเสียปริมาณมากๆ เช่น ผิวที่มีริ้วรอยลึก ผิวที่มีการหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด และผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน
•    ผลลัพธ์: ผลลัพธ์จาก Sculptra จะคงอยู่นานประมาณ 2-3 ปี หลังจากการรักษาครบทุกครั้ง

สรุปผลลัพธ์
Radiesse เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการการเติมเต็มและยกกระชับทันที โดยเฉพาะบริเวณที่มีริ้วรอยลึกหรือผิวที่สูญเสียความยืดหยุ่น
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว และปรับปรุงสภาพผิวอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปและยาวนาน

การเลือกใช้สารเติมเต็มทั้งสองชนิดนี้ควรพิจารณาร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและสภาพผิวของคุณมากที่สุดค่ะ Sculptra vs Radiesse จะเลือกแบบไหนดีขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคุณที่ต้องการแก้ไข หากใครสนใจวิธีการดูแลผิวสามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่อิสสวีร์คลินิก มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านงานผิว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาได้เลย