การเปลี่ยนแปลงของใบหน้าตามวัยนั้น มักแสดงออกในหลายลักษณะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการหย่อนคล้อยของคิ้ว (Brow Ptosis) และหน้าผาก ความหย่อนคล้อยนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสุนทรียภาพที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุเกินจริง การแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าผากแบบดั้งเดิมอีกต่อไป นวัตกรรมทางการแพทย์ได้นำเสนอทางเลือกอย่าง Endotine ซึ่งเป็นวิธีการยกกระชับที่เน้นประสิทธิภาพและความเป็นธรรมชาติ
บทความนี้จะตรวจสอบสามสัญญาณบ่งชี้สำคัญของการหย่อนคล้อยของคิ้ว และอธิบายว่าอุปกรณ์ เอนโดไทน์ สามารถให้การแก้ไขได้อย่างไร โดยรักษารูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติและลดความจำเป็นในการทิ้งรอยแผลเป็นที่สังเกตเห็นได้
กระบวนการทำงานของ Endotine
Endotine คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับยึดเนื้อเยื่อที่ทำจากวัสดุ Poly Lactic Acid (PLA) อุปกรณ์นี้ได้รับการออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายตะขอหรือหนามเล็กๆ หลายจุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะเนื้อเยื่อได้อย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ
อุปกรณ์ เอนโดไทน์ จะทำหน้าที่ยึดตำแหน่งของเนื้อเยื่อที่ถูกยกขึ้นในช่วงแรกของการรักษา เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 6 ถึง 12 เดือน อุปกรณ์จะค่อยๆ สลายตัวไปตามกลไกทางชีวภาพของร่างกาย ทิ้งไว้เพียงเนื้อเยื่อที่ได้รับการซ่อมแซมและจัดเรียงตัวใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกยกกระชับไว้แล้ว การทำหัตถการด้วยเทคนิคนี้จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของความหย่อนคล้อยอย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
3 สัญญาณคิ้วตก ที่ Endotine ช่วยแก้ได้
1. การลดระดับของหางคิ้ว ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าปรากฏความหมองคล้ำ
สัญญาณแรกและที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือการที่หางคิ้วลดระดับลงต่ำกว่าขอบกระดูกเบ้าตาตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนังและการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใต้ผิวหนังทำให้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าผากและคิ้วเคลื่อนตัวลงมา โดยเฉพาะบริเวณด้านข้างหรือหางคิ้ว
การลดระดับนี้ทำให้พื้นที่เหนือหางตาถูกบดบัง ทำให้ดวงตาดูเล็กลง และอาจทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสหรือมีสีหน้าคล้ายความรู้สึกเศร้าอยู่เสมอ การแก้ไขโดยใช้ Endotine เกี่ยวข้องกับการติดตั้งอุปกรณ์ยึดเนื้อเยื่อนี้ใต้ผิวหนัง การทำงานของมันคือการยึดจับเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อย จากนั้นจึงยกขึ้นสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมทางกายวิภาค การดำเนินการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูมุมของคิ้ว ทำให้ดวงตาเปิดกว้างขึ้นและสร้างรูปลักษณ์ที่สดชื่น
2. การเกิดรอยย่นลึกที่หน้าผากที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น
ในบางกรณี รอยย่นที่หน้าผากมีความรุนแรงและเกิดจากการทำงานมากเกินไปของกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis muscle) ผู้ที่มีคิ้วหย่อนคล้อยมักจะใช้กล้ามเนื้อนี้ในการ "เลิกคิ้ว" ขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อชดเชยการมองเห็นที่ถูกบดบัง การทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอนี้นำไปสู่การเกิดร่องรอยย่นลึกถาวรที่แนวขวางของหน้าผาก
การรักษาริ้วรอยประเภทนี้ด้วยการใช้สารลดเลือนริ้วรอยเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด หรืออาจทำให้อาการหย่อนคล้อยของคิ้วแย่ลงได้อีก การใช้ เอนโดไทน์ จัดเป็นการแก้ไขปัญหาที่โครงสร้าง โดยการยกคิ้วและหน้าผากให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง กล้ามเนื้อหน้าผากไม่จำเป็นต้องทำงานชดเชยอีกต่อไป การคลายตัวของกล้ามเนื้ออย่างเป็นธรรมชาติจะช่วยลดความลึกของรอยย่นบนหน้าผาก
3. ผิวหนังเปลือกตาบนที่ทับซ้อนกันจนบดบังลานสายตา
เมื่อการหย่อนคล้อยดำเนินไปถึงระดับรุนแรง ผิวหนังส่วนเกินของคิ้วและเปลือกตาบนจะตกลงมาทับซ้อนกับแนวขนตาอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีที่รุนแรง การทับซ้อนนี้อาจส่งผลกระทบต่อลานสายตา ทำให้วิสัยทัศน์ถูกจำกัด โดยเฉพาะในมุมมองด้านข้างหรือด้านบน ภาวะนี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาด้านความงาม แต่ยังเป็นปัญหาด้านการทำงาน (Functional Concern) ที่สร้างความไม่สบายตา
เทคนิคการใช้ Endotine Lift มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงและยึดเนื้อเยื่อของหน้าผากและคิ้วขึ้นไป การยกกระชับนี้จะช่วยดึงผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อยบนเปลือกตาบนขึ้นไปพร้อมกันด้วย การทำหัตถการนี้ดำเนินการผ่านการกรีดแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในแนวไรผม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นการเปิดดวงตาให้กว้างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ที่สังเกตเห็นได้ง่าย
ผู้ที่พิจารณาการแก้ไขปัญหาคิ้วหย่อนคล้อยด้วยเทคนิค Endotine Lift ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมผู้มีประสบการณ์เพื่อประเมินสภาพผิวและใบหน้าอย่างละเอียด การเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญต่อการบรรลุผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัย ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://www.issaveeclinic.com/
